บทความที่ได้รับความนิยม

วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

การลงทุนบอนด์ระยะสั้น


การลงทุนบอนด์ระยะสั้น

แนะลงทุนกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น รอความชัดเจนของแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยต่อจากนี้ บลจ.แอสเซทพลัสส่ง “แอสเซทพลัสตราสารหนี้ทวีทรัพย์ 8” โรลโอเวอร์วันที่ 7 พ.ย.นี้ ขณะที่ บลจ.กรุงศรีส่งกองทุน “กรุงศรีตราสารหนี้ 6M43” ไอพีโอลงทุน 6 เดือนให้ผลตอบแทน 3% เปิดขายหน่วยลงทุนตั้งแต่วันนี้ถึง 12 พ.ย. 55

นางสาวฤดี ปติอารยกุล ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บลจ.แอสเซท พลัส เปิดเผยว่า ตลาดตราสารหนี้ในช่วงที่ผ่านมาหลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ลงมาอยู่ที่ 2.75% ส่งผลให้ตั้งแต่เดือน ต.ค. จนถึงต้นเดือน พ.ย. เส้นอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนใน



พันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลงตลอดทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะช่วงระยะสั้นที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปีปรับตัวลงมากประมาณ 4-13 basis points ในขณะที่พันธบัตรอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไปปรับตัวลดลง 1-9 basis points แต่ในระหว่างทางอัตราผลตอบแทนมีการแกว่งตัวตามแรงซื้อขายที่เข้ามาในตลาด โดยนักลงทุนบางกลุ่มมีการขายพันธบัตรออกมาเนื่องจากราคาของพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้นมาระดับหนึ่ง กอปรกับการคาดการณ์ว่าจะมีการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกไปลงทุนในประเทศอื่นมากขึ้น ขณะที่นักลงทุนอีกกลุ่มหนึ่งคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวลงได้อีกจากภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัดตามภาวะเศรษฐกิจโลก จึงมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาด

ด้านตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือน ต.ค.เริ่มชะลอตัว โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 3.32% ลดลงจาก 3.38% ในเดือน ก.ย.ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ระดับ 1.83% เทียบกับ 1.89% ในเดือนกันยายน ซึ่งอัตราเงินเฟ้อเป็นปัจจัยที่นักลงทุนในตลาดตราสารหนี้จับตามองว่าอาจส่งผลต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต

“จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ตลาดตราสารหนี้ยังคงเผชิญกับภาวะความผันผวนได้ในอนาคต แม้ว่าแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงในช่วงนี้ แต่อาจมีแรงกดดันเพิ่มขึ้นได้ในอนาคตทั้งจากอุปสงค์ภายในประเทศที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง และราคาเชื้อเพลิงที่อาจปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ การเคลื่อนย้ายเงินทุนและภาวะเศรษฐกิจก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม จึงขอแนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นๆ เพื่อรอความชัดเจนของแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในช่วงถัดไป” นางสาวฤดีกล่าว

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการขายและการตลาด บลจ.แอสเซท พลัส กล่าวว่า ในวันที่ 7 พฤศจิกายนบริษัทฯ จะ Rollover กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารหนี้ทวีทรัพย์ 8 (ASP-TFIXED8) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่เปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา ซึ่งรอบการลงทุนนี้กองทุนจะพิจารณาลงทุนในตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และตั๋วแลกเงินในประเทศ อายุประมาณ 4 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 3.00% ต่อปี

ทางด้านายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M43 (KFFIX6M43) อายุประมาณ 6 เดือน มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดย ธ.กรุงศรีอยุธยา จก. (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10% ตั๋วแลกเงินออกโดย บ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จก. (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 15% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดย ธ. Banco Bradesco S.A. (บราซิล) สัดส่วนการลงทุน 16% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดย ธ. Banco Itau Unibanco S.A. (บราซิล) สัดส่วนการลงทุน 16% เงินฝาก ธ. Standard Chartered Bank (สิงคโปร์) สัดส่วนการลงทุน 20% และเงินฝากธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 23% โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 3.00% ต่อปี เสนอขายระหว่างวันที่ 6-12 พ.ย. 55 ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น