ทำธุรกิจร้านเน็ตค่าเฟ่
อันนี้ความเห็นส่วนตัว ตอนนี้ถ้าจะเปิด เปิดร้านเน็ตค่าเฟ่ คุณต้องทำกึ่งร้านเบเกอรี่ หรือ ร้านอาหารไปเลย เพราะเดี๋ยวนี้คำว่าร้านเน็ต ขายไม่ได้เเล้วเพราะเดี๋ยวนี้ มี 3G เข้าเน็ตได้ทุกที่เเละเดี๋ยวนี้คิดว่า มีเน็ตกันเกือบทุกบ้านถ้าบ้านไหนไม่มี เเปลว่าบ้านนั้นเค้าไม่สนใจเรื่องพวกนี้เค้าก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายคุณอยู่ดี ถ้าไม่เปิดดี มีคอนเทนดีๆ ดึงดูดคนมาใช้บริการ ไปเลยไม่รอดหรอก คนทุนต่ำเปิดไม่ได้ เพราะต้องมีถึงเกือบๆ 7-8 เเสนบาทเเล้ว ค่าเครื่อง 20 เครื่องดีๆหน่อยๆก็ 4 เเสนเเล้ว ค่าเกมส์อีกอะ window เเท้อีกอะ 2-3 หมื่นบาท ค่าตกเเต่งร้านอีกอะ 1-2 เเสน เเละเมื่อไหร่ได้คืนอะทุนอะ คนมีเงินเค้าไม่ทำกันเเล้วนอกจากพวกใจรักจริงๆ เเต่ต้องคงเป็นลูกคนรวย อะ
อันนี้อ่านเพิ่มเติมนะครับ
แรกเริ่มเรียนรู้สู่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ตอนที่ 2
ก่อนที่คุณตัดสินใจจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญก็คือแผนธุรกิจ
สำหรับบทนี้เราจะมาดูกันถึง งบประมาณ การลงทุน
เป็นสิ่งที่คุณควรจะรู้ ว่าคุณมีเงินอยู่เท่าไหร่ และต้องลงทุนเท่าไหร่
และมันจะสร้างผลตอบแทนให้คุณเท่าไหร่
สำหรับบทนี้เราจะมาดูกันถึง งบประมาณ การลงทุน
เป็นสิ่งที่คุณควรจะรู้ ว่าคุณมีเงินอยู่เท่าไหร่ และต้องลงทุนเท่าไหร่
และมันจะสร้างผลตอบแทนให้คุณเท่าไหร่
ในการตัดสินใจลงทุนในธุรกิจร้านเน็ตนั้น
สิ่งแรกที่คุณควรจะมีก็คือ ทำเล สถานที่ตั้ง เพราะนั่นหมายถึง
จำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่คุณจะวางได้ การออกแบบ
การลงทุนตบแต่งร้าน และจำนวนลูกค้าที่น่าจะเป็นเป้าหมายของเรา
สิ่งแรกที่คุณควรจะมีก็คือ ทำเล สถานที่ตั้ง เพราะนั่นหมายถึง
จำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่คุณจะวางได้ การออกแบบ
การลงทุนตบแต่งร้าน และจำนวนลูกค้าที่น่าจะเป็นเป้าหมายของเรา
สมมติว่าคุณได้ทำเลแล้ว และสามารถวางเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการได้ 30 เครื่อง
เราจะมาลองคำนวนดูคร่าวๆว่า ต้องใช้เงินลงทุนซักเท่าไหร่
เราจะมาลองคำนวนดูคร่าวๆว่า ต้องใช้เงินลงทุนซักเท่าไหร่
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใ่ห้บริการทั้งหมด 30 ชุด ชุดละ 15,000 บาท เป็นเงิน 450,000 บาท
โต๊ะคอมพิวเตอร์ + เก้าอี้โซฟา 30 ชุด ชุดละ 2,200 บาท เป็นเงิน 66,000 บาท
เครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับเคาเตอร์ 1 ชุด + โต๊ะเก้าอี้ 20,000 บาท
เครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับทำหน้าที่ server 2 ชุด ไม่ต้องมี Monitor ราคา 10,000 บาท เป็นเงิน 20,000 บาท
อุปกรณ์เครือข่าย Switching Hub 24p x 2 ตัว Router ADSL ทั้งหมด 10,000 บาท
งบตกแต่ง ทาสีผนัง, ปูพื้นกระเบื้อง ตกแต่งภายใน ทำประตูกระจก 50,000 บาท
เครื่องปรับอากาศ เบอร์ 5 ราคา 30,000 บาท
โต๊ะคอมพิวเตอร์ + เก้าอี้โซฟา 30 ชุด ชุดละ 2,200 บาท เป็นเงิน 66,000 บาท
เครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับเคาเตอร์ 1 ชุด + โต๊ะเก้าอี้ 20,000 บาท
เครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับทำหน้าที่ server 2 ชุด ไม่ต้องมี Monitor ราคา 10,000 บาท เป็นเงิน 20,000 บาท
อุปกรณ์เครือข่าย Switching Hub 24p x 2 ตัว Router ADSL ทั้งหมด 10,000 บาท
งบตกแต่ง ทาสีผนัง, ปูพื้นกระเบื้อง ตกแต่งภายใน ทำประตูกระจก 50,000 บาท
เครื่องปรับอากาศ เบอร์ 5 ราคา 30,000 บาท
รวมเป็นค่าใช้จ่ายเบื้องต้นอยู่ที่ 646,000 บาท
ไม่รวมค่าแรงงาน วางระบบ เดินสาย และอื่นๆ ในกรณีการเปลี่ยนตู้ไฟ หรืออื่นๆ
เหลือเผื่อๆไว้ก็คือ 700,000 บาท
ไม่รวมค่าแรงงาน วางระบบ เดินสาย และอื่นๆ ในกรณีการเปลี่ยนตู้ไฟ หรืออื่นๆ
เหลือเผื่อๆไว้ก็คือ 700,000 บาท
ทีนี้มาดูค่าใช้จ่ายรายเดือน
ค่าเช่าบ้าน 10,000 บาท
ค่าไฟ 12,000 บาท (อาจจะแพงกว่านี้ หรือถูกกว่านี้ ขึ้นอยู่กับการใช้งาน)
ค่าโทรศัพท์ + อินเตอร์เน็ต 2,000 บาท
ค่าน้ำ ค่ายาม ค่าจิปาถะ 1,000 บาท
ค่าจ้างพนักงาน 2 คน คนละ 4,500 บาท
ค่าเสื่อมราคาเครื่องคอมพิวเตอร์ และโต๊ะเก้าอี้์ คิดที่ 3 ปี 30 เครื่อง ตกเดือนละ 14,500 บาท
ค่าไฟ 12,000 บาท (อาจจะแพงกว่านี้ หรือถูกกว่านี้ ขึ้นอยู่กับการใช้งาน)
ค่าโทรศัพท์ + อินเตอร์เน็ต 2,000 บาท
ค่าน้ำ ค่ายาม ค่าจิปาถะ 1,000 บาท
ค่าจ้างพนักงาน 2 คน คนละ 4,500 บาท
ค่าเสื่อมราคาเครื่องคอมพิวเตอร์ และโต๊ะเก้าอี้์ คิดที่ 3 ปี 30 เครื่อง ตกเดือนละ 14,500 บาท
รวมเป็นค่าใช้จ่ายรายเดือนคือ 48,500 บาท ต่อเดือน
แล้วรายได้ละ
สำหรับรายได้นั้น ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับทำเล จำนวนลูกค้า การบริหารธุรกิจของคุณ
แต่ผมก็มีสูตรเฉพาะตัว สูตรนึง ก็คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องที่ใ้ห้บริการ
ควรจะทำเงินให้คุณได้ 100 บาท ต่อวัน หรือ 3,000 บาท ต่อเดือน
อันนี้คือมาตรฐานกลางๆ ที่เป็นไปได้ อย่างเช่น ถ้าหากในกรณีนี้คือมี 30 เครื่อง
ก็ควรจะได้วันละ 3,000 บาท โดยเฉลี่ย อาจจะน้อยกว่านี้ในวันธรรมดา หรือมากกว่านี้ในวันหยุด
แต่โดยเฉลี่ยควรจะได้ 100 บาท ต่อเครื่อง ต่อวัน … ถ้าน้อยกว่านี้ถือว่าน้อย มากกว่านี้ถือว่ามาก
แต่ผมก็มีสูตรเฉพาะตัว สูตรนึง ก็คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องที่ใ้ห้บริการ
ควรจะทำเงินให้คุณได้ 100 บาท ต่อวัน หรือ 3,000 บาท ต่อเดือน
อันนี้คือมาตรฐานกลางๆ ที่เป็นไปได้ อย่างเช่น ถ้าหากในกรณีนี้คือมี 30 เครื่อง
ก็ควรจะได้วันละ 3,000 บาท โดยเฉลี่ย อาจจะน้อยกว่านี้ในวันธรรมดา หรือมากกว่านี้ในวันหยุด
แต่โดยเฉลี่ยควรจะได้ 100 บาท ต่อเครื่อง ต่อวัน … ถ้าน้อยกว่านี้ถือว่าน้อย มากกว่านี้ถือว่ามาก
ดังนั้นตามสูตรนี้ ให้ถือว่า มีรายได้เดือนละ 30 เครื่อง x 100 บาท x 30 วัน = 90,000 บาท ต่อเดือน
หักค่าใช้จ่าย ก็จะเหลือกำไร 90,000 – 48,500 = 41,500 บาท ต่อเดือน
ซึ่งด้วยกำไร 41,500 บาท ต่อเดือนนั้น จะทำให้เราคืนทุน 700,000 บาท
ได้ใน 17 เดือน หรือ 1 ปี กับอีก 5 เดือน โดยยังทำธุรกิจต่อไปได้อีก 19 เดือน เพื่อเป็นส่วนของกำไร
และัยังสามารถมีเงินเหลือพอสำหรับการ upgrade เครื่องในอนาคตได้อีกด้วย
โดยนำเงินจากการหักค่าเสื่อมราคาในแต่ละเดือนมาคิด
และตรงจุดนี้ จะเป็นจุดที่ทำให้เครื่องเราทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
ได้ใน 17 เดือน หรือ 1 ปี กับอีก 5 เดือน โดยยังทำธุรกิจต่อไปได้อีก 19 เดือน เพื่อเป็นส่วนของกำไร
และัยังสามารถมีเงินเหลือพอสำหรับการ upgrade เครื่องในอนาคตได้อีกด้วย
โดยนำเงินจากการหักค่าเสื่อมราคาในแต่ละเดือนมาคิด
และตรงจุดนี้ จะเป็นจุดที่ทำให้เครื่องเราทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
การคำนวณงบประมาณครั้งนี้ เป็นการทำโดยคร่าวๆ
เพราะเนื้อหา รายละเอียด นั้นมีความแตกต่างกันไปในหลายๆส่วน
เช่น ตึกที่คุณเช่า อาจจะมีค่าเช่า หรือค่าตบแต่ง แตกต่างกันออกไป
ระบบร้านอินเตอร์เน็ตที่คุณใช้งาน การจ้างพนักงาน
ทุกอย่างล้วนทำให้เกิดความแตกต่างในรายละเอียดได้
เพราะเนื้อหา รายละเอียด นั้นมีความแตกต่างกันไปในหลายๆส่วน
เช่น ตึกที่คุณเช่า อาจจะมีค่าเช่า หรือค่าตบแต่ง แตกต่างกันออกไป
ระบบร้านอินเตอร์เน็ตที่คุณใช้งาน การจ้างพนักงาน
ทุกอย่างล้วนทำให้เกิดความแตกต่างในรายละเอียดได้
แต่คุณสามารถใช้ guide line นี้ เพื่อสร้างแผนธุรกิจคร่าวๆได้ครับ..
คำถามท้ายบท (เลือกข้อที่น่าจะถูกที่สุด)
1. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำสัญญาเช่าบ้าน
ก) สิ่งที่เราต่อเติมบ้านเช่า ไม่ว่าจะเป็นประตูกระจก หรือ build-in จะตกเป็นของเจ้าของบ้าน เมื่อเราเลิกเช่า
ข) ในการทำสัญญา มักจะต้องจ่ายค่ามัดจำล่วงหน้า 2 – 3 เดือน
ค) ถ้าหากค้างชำระเกิน 2 เดือนเจ้าของบ้านมีสิทธิ์มาล็อคประตูหน้าบ้าน
ง) ค่าเช่าบ้าน สามารถจ่ายต้นเดือน(จ่ายก่อนอยู่) หรือปลายเดือน(อยู่ก่อนจ่าย) ก็ได้
2. ขนาดห้อง หน้ากว้าง 4 เมตร, ลึก 8 เมตร ควรใช้แอร์ขนาดเท่าไหร่
ก) 9000 btu เบอร์ ๕
ข) 12000 btu เบอร์ ๕
ค) 16000 btu เบอร์ ๕
ง) 24000 btu เบอร์ ๕
ก) สิ่งที่เราต่อเติมบ้านเช่า ไม่ว่าจะเป็นประตูกระจก หรือ build-in จะตกเป็นของเจ้าของบ้าน เมื่อเราเลิกเช่า
ข) ในการทำสัญญา มักจะต้องจ่ายค่ามัดจำล่วงหน้า 2 – 3 เดือน
ค) ถ้าหากค้างชำระเกิน 2 เดือนเจ้าของบ้านมีสิทธิ์มาล็อคประตูหน้าบ้าน
ง) ค่าเช่าบ้าน สามารถจ่ายต้นเดือน(จ่ายก่อนอยู่) หรือปลายเดือน(อยู่ก่อนจ่าย) ก็ได้
2. ขนาดห้อง หน้ากว้าง 4 เมตร, ลึก 8 เมตร ควรใช้แอร์ขนาดเท่าไหร่
ก) 9000 btu เบอร์ ๕
ข) 12000 btu เบอร์ ๕
ค) 16000 btu เบอร์ ๕
ง) 24000 btu เบอร์ ๕
จาก http://www.tsc-club.org/bbs/viewthread.php?tid=443
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น