การทำธุรกิจร้านเช่าหนังสือการ์ตูนนิตยสาร
โดย สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ไม่ว่ายุคสมัยใด หนังสือเป็นสื่อที่ได้รับความนิยมมาตลอด หากแต่ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่อัตราค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้ทุกคนต้องประหยัด ธุรกิจร้านเช่าหนังสือ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าจะไปได้ดี สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของกิจการ เพราะการเปิดร้านเช่าหนังสือจะไม่เกี่ยวกับเรื่องประสบการณ์การทำงาน เป็นกิจการที่สามารถจัดตั้งได้ง่าย ไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก เป็นงานอิสระที่ลงทุนเพียงครั้งเดียว แต่ทำรายได้ให้เจ้าของได้ระยะยาว สามารถทำเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพ เสริมได้อีกด้วย
ศักยภาพของผู้ประกอบการ
ผู้ประกอบการที่สนใจ และกำลังเริ่มต้นทำธุรกิจร้านเช่าหนังสือ ไม่ใช่ว่ามีเงินทุนพร้อมเพียงอย่างเดียวก็จะสามารถเปิดร้านได้ แต่ต้องอาศัยคุณสมบัติเฉพาะตัวดังต่อไปนี้
รักการอ่าน เพราะจะทำให้ผู้ประกอบการมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหนังสือประเภทต่างๆ มีเงินทุนเป็นของตนเอง เนื่องจากการทำร้านในช่วงต้น ต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง ทำเลที่ตั้งควรอยู่ในแหล่งชุมชนที่มีกำลังซื้อ และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีความเป็นกันเองต่อลูกค้า ควรให้ความสำคัญกับลูกค้าเท่ากันหมด ให้บริการที่ดี ละเอียดรอบคอบและมีประสิทธิภาพ
การติดต่อหน่วยงานราชการ
- ขั้นตอนการขอจดทะเบียนร้านค้า
ผู้ที่คิดจะทำร้านเช่าหนังสือเพียงอย่างเดียว อาจไม่จำเป็นต้องยื่นขอจดทะเบียนกับกรมทะเบียนการค้า เว้นแต่ร้านที่ขายสินค้าอื่น ในลักษณะซื้อมา-ขายไป เช่น ขายขนม สินค้ากิฟต์ช็อป ลักษณะนี้ผู้ประกอบการต้องดำเนินการ จดทะเบียนการค้า กับกรมทะเบียนการค้า
เอกสารที่ต้องเตรียม กรณีนี้จะกล่าวถึงเฉพาะกิจการที่มีเจ้าของคนเดียว ได้แก่ บัตรประชาชน สำเนาบัตรประชาชน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง จำนวน 1 ฉบับ ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียน 50 บาท ส่วนระยะเวลาดำเนินการ จะได้รับทะเบียนพาณิชย์ภายในวันเดียวกัน ทั้งนี้ ต้องจดทะเบียนภายใน 30 วันนับแต่วันเริ่มประกอบ
- ขั้นตอนดำเนินการเกี่ยวกับภาษี
การขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีในเขตกรุงเทพฯ ผู้ประกอบการสามารถติด ต่อขอได้ที่สรรพากรเขตที่มีภูมิลำเนาอยู่ หรือที่ตั้งร้าน ส่วนต่างจังหวัด ผู้ประกอบการสามารถขอได้ที่สรรพากรอำเภอหรือสรรพากรจังหวัดนั้นๆ
การยื่นชำระภาษี ผู้ที่จะต้องยื่นชำระภาษี คือผู้ที่มีรายได้ต่อปีภาษีรวมกันเกิน 60,000 บาท ต้องยื่นแบบชำระภาษีประจำปี ภ.ง.ด. 90(5) ภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป นอกจากนี้ กฎหมายยังกำหนด ให้ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี ภ.ง.ด. 94 โดยคำนวณจากเงินได้ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน ภายในเดือนกันยายนของทุกปีภาษี
- การชำระภาษีป้าย กรุงเทพมหานครยื่น ณ สำนักงานเขตศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ต่างจังหวัดยื่น ณ สำนักงานเทศบาล หรือที่ทำการ อบต. วิธีดำเนินการให้ยื่นแบบ ภ.ป.1 ภายใน 15 วัน หลังติดตั้งป้าย จากนั้นเจ้าหน้าที่จะมาตรวจขนาดป้าย และดูแบบอักษร พร้อมคำนวณภาษีที่ต้องชำระ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถมาชำระเงินด้วยตัวเอง ได้ที่กองการเงิน กระทรวงการคลัง หรือส่งทางไปรษณีย์ในรูปของธนาณัติ ตั๋วแลกเงิน หรือเช็ค ภายใน 15 วันหลังจากเจ้าหน้าที่ได้มาตรวจป้าย การชำระเงินจะชำระเป็นรายปี คือตั้งแต่เดือนมกราคม แต่ไม่เกินมีนาคมของทุกปี
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2545
สำหรับสภาพตลาดร้านเช่าหนังสือ ในปัจจุบันตลาดร้านเช่าหนังสือยังเปิดกว้างรองรับการลงทุนได้อีก สังเกตได้จากยังมีการเปิดร้านตามจุดต่างๆ ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด อาจเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้ผู้ที่เคยซื้อหนังสืออ่านเอง หันมาใช้บริการธุรกิจประเภทนี้กันมากขึ้น จึงเป็นหนทางที่ทำให้ธุรกิจประเภทนี้เติบโตขึ้น อย่างไรก็ตาม ธุรกิจร้านเช่าหนังสือให้ผลตอบแทนคุ้มค่าเพียงใด จะขึ้นอยู่กับทำเลเฉพาะย่านเป็นส่วนสำคัญ
ส่วนกลุ่มลูกค้าจะมีเกือบทุกเพศทุกวัย สิ่งที่เราต้องทำ คือสำรวจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในย่านนั้นๆ ก่อนว่ามีคนกลุ่มใด วัยใดมากที่สุด และความชอบแต่ละกลุ่มเป็นอย่างไร อาทิ เด็กและวัยรุ่นจะชอบการ์ตูน ส่วนวัยทำงานและแม่บ้านจะเน้นแนวนิตยสาร นวนิยาย เป็นส่วนใหญ่ เป็นต้น
โดยผู้ประกอบการสามารถทำเป็นธุรกิจหลักได้ พร้อมกับสร้างช่องทางรายได้เสริมควบคู่กันไปด้วย อาทิ เปิดซุ้มขายของขบเคี้ยว จำพวกขนม และผลไม้แปรรูปต่างๆ เปิดซุ้มขายกิฟต์ช็อป บางร้านที่นำเอาระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ อาจรับพิมพ์งานควบคู่ไปด้วย ขายหนังสือมือสองให้นักสะสม
แต่ทั้งนี้การเพิ่มบริการเสริมเพื่อสร้างรายได้ ผู้ประกอบการควรคำนึงด้วยว่า ของที่จะขายภายในร้านควรเป็นของแห้ง เพื่อป้องกันการหกเลอะหนังสือ สิ่งสำคัญคือ เมื่อตัดสิ นใจทำธุรกิจเสริมแล้ว ผู้ประกอบการต้องสามารถควบคุมดูแลกิจการทั้งสองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนผสมทางการตลาด
1.โปรดักต์ ผู้ลงทุนจะต้องรู้จักหนังสือหลักๆ ที่นำมาจัดวางไว้ให้บริการในร้าน จะเป็นหนังสือการ์ตูน นวนิยาย พ็อกเกตบุ๊กฯ หนังสือแต่ละประเภทมีรายละเอียดแตกต่างกันอยู่ กล่าวคือ
หนังสือการ์ตูนแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ การ์ตูนผู้หญิง และการ์ตูนผู้ชาย การ์ตูนผู้หญิงมีเนื้อเรื่องในแนวกุ๊กกิ๊ก ตัวการ์ตูนสวย มีทั้งแบบเล่มเดียวจบ ส่วนชุดการ์ตูนผู้ชาย จะเป็นแนวต่อสู้ บู้ล้างผลาญ สืบสวนสอบสวน การเลือกซื้อควรดูที่ความคมชัดของลายเส้นตัวการ์ตูน ดูแล้วน่าอ่าน อัตราส่วนการจัดซื้อหนังสือการ์ตูนเข้ามาในร้าน ควรมีไว้อย่างละครึ่ง หรือแล้วแต่ว่าลูกค้าที่เข้ามาส่วนใหญ่ชอบอ่านประเภทใด
นวนิยายมีราคาตั้งแต่สิบกว่าบาท จนถึงหลักร้อย มีทั้งนวนิยายไทย และงานแปล (จีน-ฝรั่ง) การเลือกซื้อ ควรเลือกเฉพาะเรื่องที่ได้รับความนิยมเท่านั้น
พ็อกเกตบุ๊ก เรื่องสั้น หรือเรื่องเล่าต่างๆ ควรเลือกเรื่องตามกระแสความนิยม
นิตยสารควรเลือกนิตยสารที่กำลังได้รับความนิยม แต่มีเนื้อหาแตกต่างกันไป เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า
หนังสือเรื่องย่อของละครหลังข่าว ควรเน้นเรื่องที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น
วิธีสำรวจความนิยมของหนังสือแต่ละประเภท สามารถสำรวจจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีการจัดอันดับหนังสือ หรือบทวิจารณ์ตามสื่อต่างๆ เช่น นิตยสาร สัมภาษณ์ดาราขวัญใจวัยรุ่นเกี่ยวกับหนังสือที่ชอบ สอบถามลูกค้า เกี่ยวกับหนังสือที่ต้องการ แล้วพิจารณาเลือกหนังสือที่มีลูกค้าสนใจมากที่สุดจากสถิติการยืมหนังสือของลูกค้าในร้าน
รายการหนังสือและเวลาการออกของหนังสือ เช่น การ์ตูนจะมีเรื่องใหม่ๆ ออกวางขายทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ผู้ประกอบการควรทราบ และซื้อหนังสือเพิ่มเติมเข้าร้านอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหนังสือชุดที่มีเล่มต่อ เจ้าของร้านต้องหาซื้อเข้ามาไว้ให้ครบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น