การเปิดร้านขายหมูสะเต๊ะ
เเถวบ้านผมพี่เเกขายหมูสะเต๊ะครับ เดี๋ยวมีคนบอกว่าทำไมเเถวบ้านมึงขายของเยอะจังคืองี้ครับบ้านผมอยู่เเถวตลาดครับ เเต่ร้านหมูสะเต๊ะนี่ไม่ค่อยได้ซื้อกินเองหรอกนะครับเเต่พี่สาวผมชอบซื้อมากินครับ มันชอบกิน เเตงพริงใส่น้ำสมสาชูนี่เเหละครับ มาถึงบ้านมันเอาเเต่งมาใส่เพิ่มด้วยครับ
คิดดูนะครับกินหมูไม้นึงพี่เเก กินเครื่องเคียงไปสองสามช้อน เเต่ร้านนี้เเปลกครับ มีขนมปังให้ด้วยครับไปไปมาผมกลับชอบเอาขนมปิ้งจิ้มน้ำหมูสะเต๊ะเเทนเอาเเล้วไงเเล้ว มึงไม่กินหมูหรอ หมูก็กินนะครับ เเต่ ขนมปังปิ้งมันกร่อยกว่าไงครับ เเต่ไปไปมามาก็หมดเเหละครับ จุดขายของร้านหมูสะเต๊ะก็คือ น้ำจิ้ม หมูหมัก เเละ เครื่องเคียงครับพี่น้อง
ถ้าทำสามตัวนี้อร่อยหมดรับรองได้ว่ายังไงก็ขายได้ไม่ขาดทุนหรอกครับพี่น้อง เพราะเค้าขายให้ผม 2 ไม้ 5 บาท ครับ ถือว่าถูกนะคครับ เพราะผมซื้อที 40 บาท 16 ไม้ได้ครับ เเต่ซื้อขนมปังต่างหากครับ เคยคุยกับเเกว่าเราซื้อ 40 บาทได้กำไรเท่าไหร่พี่เเกว่าได้ 15 บาท เพราะเเกไม่ได้ใช้หมูดีมากเท่าไหร่นี่คือจุดขายเลย คือการหมักทำให้รสชาติดีขึ้นครับ จากส่วนที่ไม่อร่อยพอหมักเเล้วดีขึ้นถนัดตาเลยครับ อันนี้นอกเรื่อง ท่านลองไปซื้อเศษหมูมากินนะครับ กินไม่ได้เลยติดมันทั้งนั้น เศษหมูคือส่วนที่เ้ค้าไม่ใช้เเล้วไงครับ เเต่การที่จะทำให้อร่อยได้ เเละ มันเคี้ยวสนุกเนี่ยต้องตุ๋นครับ การตุ๊นนี่ดีสุดครับ คือทำให้รสชาติเปลี่ยนได้เลยครับ
เอามาดูวิธีการทำมาหากินกันบ้างครับอันนี้นั่งเทียนล้วนๆเลยอาจจะผิดก็ได้
ลงทุนประมาณ 15000 บาทได้ครับ กรณีรถเข็นไม่ใหญ่มากพร้อมตู้กระจก เตาปิ้ง มีเเค่นี้จริงๆครับ สิ่งสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จก็คือ รสชาติ เเละ ทำเล ครับ กรยุทธเเรกอาจจะใช้หลักการตลาดทางด้าน ราคามาส่วนหนึ่งในการดึงลูกค้าครับ คืือ เอากำไรน้อยหน่อยเวลาร้านเราลูกค้าเริ่มติดก็ ค่อยขายราคาที่เราคิดว่าลูกค้ารับได้เเค่นี้ก็น่าจะอยู่ได้ครับกับกำไรประมาณ 40 % เช่น วันนี้ขายได้ 1000 บาทอาจจะได้กำไร 350-400 บาทกันเลยทีเดียวขึ้นอยู่วัตถุดิบ เเละ ค่าที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น