บทความที่ได้รับความนิยม

วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2555

การทำธุรกิจร้านขายดอกไม้


การทำธุรกิจร้านขายดอกไม้
การเปิดร้านขายดอกไม้สด
“ดอกไม้ 1 ช่อ มีต้นทุนค่าแรง 40 เปอร์เซ็นต์ ค่าวัสดุ 60 เปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่ตั้งราคาเช่นนี้จะขาดทุน เนื่องจากดอกไม้มีค่าเสื่อมสูง ฉะนั้น หากคำนวณต้นทุน ดอกไม้ กับปริมาณที่จัดออกมาได้อย่างลงตัว ก็จะกำไรดี”
ทุกวันนี้ คนจำนวนไม่น้อยเลือกใช้ “ดอกไม้” เป็นสื่อบอกความรู้สึกในโอกาสพิเศษ และเทศกาลต่างๆ เพราะฉะนั้น ร้านดอกไม้จึงเป็นอีกธุรกิจที่น่าสนใจ เพราะสามารถสร้างรายได้ให้ทุกห้วงเวลา ไม่ว่าเศรษฐกิจจะขาขึ้น หรือซบเซา
ก้าวแรกเศรษฐี ฉบับนี้ นำเสนอข้อมูล รายละเอียด จำนวนเงินลงทุนการเปิดร้านดอกไม้สด แหล่งซื้อวัสดุอุปกรณ์ โดย อาจารย์พัณณ์นิภา สวัสดิ์จารุโชติ วิทยากรวิชาการจัดดอกไม้ขั้นพื้นฐานและนอกสถานที่ในโอกาสต่างๆ ประจำศูนย์อาชีพและธุรกิจ มติชน เป็นผู้ให้ข้อมูล
รูปแบบการจัดดอกไม้ มีมาก
สมาธิ และความตั้งใจ คือสิ่งสำคัญ
อาจารย์พัณณ์นิภา เล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยเปิดร้านดอกไม้สด ย่านจังหวัดนนทบุรี นาน 3 ปี จากนั้นปิดกิจการ เพื่อไปเลี้ยงหลาน ระหว่างนี้ใช้ความรู้ ความสามารถให้เกิดประโยชน์ ด้วยการรับจัดดอกไม้นอกสถานที่ และสวมวิญญาณครูสอนลูกศิษย์ ที่ศูนย์อาชีพและธุรกิจ มติชน
เนื้อหา รายละเอียดวิชา ที่อาจารย์พัณณ์นิภาสอน มีมากมาย อาทิ การจัดดอกไม้ในแจกันทรงสูง การจัดดอกไม้ในแจกันทรงเตี้ย การจัดดอกไม้ทรงกลม ช่อดอกไม้ การจัดดอกไม้บนโพเดียม การจัดพวงหรีด การจัดกระเช้าดอกไม้-ผลไม้ การจัดดอกไม้หน้าศพ การจัดซุ้มแต่งงาน งานบวช เป็นต้น โดย อาจารย์พัณณ์นิภาจะสอนตั้งแต่พื้นฐาน ให้คำแนะนำวิธีการเปิดร้าน วิธีการรับงาน ตลอดจนแหล่งซื้อวัสดุ อุปกรณ์ ชนิดที่ว่าเรียนเสร็จสามารถนำไปประกอบอาชีพได้เลย
หลักสำคัญของการเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ อาจารย์พัณณ์นิภา ระบุว่า นอกจากชื่นชอบดอกไม้แล้ว ควรรู้จักชนิดของดอกไม้ให้หลากหลาย รู้รายละเอียด รู้คุณสมบัติว่าดอกไม้แต่ละชนิดเป็นอย่างไร มีอายุเก็บได้นานเท่าไหร่ สามารถนำมาจัดเป็นรูปแบบใดได้บ้าง สิ่งสำคัญ ต้องสามารถคำนวณปริมาณดอกไม้ได้ว่า เมื่อจัดออกมาแล้วจะได้ประมาณกี่ช่อ กี่แจกัน เป็นต้น
นอกจากคุณสมบัติเหล่านั้นแล้ว อาจารย์พัณณ์นิภา บอกต่อว่า ผู้จัดดอกไม้ที่ดี ควรมีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งใดได้นาน ไม่ควรใจร้อน เพื่อให้ดอกไม้ที่ปักออกมาสวยงาม
เวลาจัดไม่ควรหวงดอกไม้ อีกทั้งควรปักดอกไม้ลงบนภาชนะให้ได้สัดส่วน สมดุล โดยไม่ข้ามขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง สิ่งสำคัญ หมั่นฝึกฝนฝีมืออยู่สม่ำเสมอ “ช่วง 6 เดือนแรกของการเปิดร้านดอกไม้ เจ้าของไม่ควรจ้างพนักงาน ควรเรียนรู้รายละเอียดงานภายในร้านให้มากที่สุด อาทิ ค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน การเช็คสต๊อคสินค้า การต้อนรับลูกค้า วิธีการเก็บรักษาดอกไม้ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ เป็นต้น”
สำหรับอุปกรณ์ และประเภทของดอกไม้ที่จัด จะแตกต่างกันไปตามรูปแบบ ตัวอย่างเช่น จัดดอกไม้บนโพเดียม อุปกรณ์จะประกอบไปด้วย ดอกไม้ ใบเฟิร์น ใบไม้ลักษณะโปร่ง โอเอซีสลักษณะคล้ายก้อนโฟม มีสีเขียว ก่อนใช้นำไปจุ่มน้ำ สามารถยืดอายุดอกไม้ได้นานหลายวันใช้สำหรับปักดอกไม้สด กรรไกร มีด ส่วนรูปแบบอื่น อาจมี คีม ลวด ริบบิ้น โบว์ เชือกฟาง ไม้เสียบ สก๊อตเทป ซุ้มโค้ง พวงหรีด รวมถึงแจกันทรงต่างๆ
เปิดร้านหลักแสน
กำไรดี ไม่นานคืนทุน
ลำพังค่าอุปกรณ์ อาจารย์พัณณ์นิภา กล่าวว่า ราคาไม่แพง เว้นแต่ต้องการเปิดร้านจัดดอกไม้ ลงทุนค่อนข้างสูง ในต่างจังหวัด ร้านควรมีพื้นที่ 2 x 3 เมตร ใช้เงินลงทุนประมาณ 50,000 บาท หลักๆ เป็นค่าเช่าสถานที่ ค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าดอกไม้ และเงินหมุนเวียนจำนวนหนึ่ง ส่วนในกรุงเทพฯ พื้นที่ค่อนข้างจำกัด และราคาเช่าสูง ฉะนั้น ใช้เพียง 1-2 เมตร รวมค่าอุปกรณ์ ดอกไม้สด และเงินหมุนเวียนจำนวนหนึ่ง เฉลี่ย 100,000 บาท
จำนวนเงินลงทุนที่อาจารย์พัณณ์นิภาระบุไป เป็นเพียงค่าวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นภายในร้าน ไม่ได้รวมถึงตู้แช่ดอกไม้ เพราะค่อนข้างแพง ราคาตามขนาดตู้ ตั้งแต่ 10,000-30,000 บาท หากเพิ่งเริ่มเปิดกิจการให้ใช้ลังน้ำแข็ง และโรยน้ำแข็ง เป็นสถานที่เก็บดอกไม้ไปก่อน จะคุ้มค่ากว่า
ลำดับถัดมา อาจารย์พัณณ์นิภาแนะนำวิธีเลือกสถานที่ ไม่ว่าผู้ประกอบการจะเปิดเป็นร้านค้า หรือแผงลอย ควรเลือกอยู่ในพื้นที่ชุมชน ตลาด ใกล้สถานที่ราชการ บริษัท โรงเรียน มหาวิทยาลัย ห้างร้าน ยิ่งใกล้วัดจะดีมาก เนื่องจากมีความจำเป็นต้องใช้ดอกไม้ จำพวกพวงหรีดตลอด และภายหลังได้สถานที่ ควรตกแต่งร้านให้ดูเป็นระเบียบ สะอาดสะอ้าน จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้ครบมือ ที่สำคัญ หมั่นฝึกฝน เรียนรู้วิธีการจัดดอกไม้สม่ำเสมอ อาจใช้วิธีไปศึกษาจากสถาบันที่เปิดสอน หรือหาซื้อหนังสือมาศึกษา จะได้ทราบเทคนิค และรูปแบบที่ทันสมัย
สำหรับหลักการตั้งราคาดอกไม้ อาจารย์พัณณ์นิภา บอกว่า ดอกไม้ 1 ช่อ มีต้นทุนค่าแรง 40 เปอร์เซ็นต์ ค่าวัสดุ 60 เปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่ตั้งราคาเช่นนี้จะขาดทุน เนื่องจากดอกไม้มีค่าเสื่อมสูง ฉะนั้น หากคำนวณต้นทุนดอกไม้ กับปริมาณที่จัดออกมาได้อย่างลงตัว ก็จะกำไรดี “แต่ละวันต้นทุนที่ตายตัวคือ ปริมาณดอกไม้ที่ซื้อ ค่าเช่าสถานที่ และคุณภาพวัสดุที่ใช้ แต่เนื่องจากดอกไม้มีค่าเสื่อมสูง ดอกไม้แต่ละกำที่ซื้อมาอาจใช้ไม่ได้ทุกดอก อีกทั้งรูปแบบการจัดไม่ตายตัว ฉะนั้น ถ้าไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม จะทำให้ไม่ได้กำไร และไม่คุ้มค่าเหนื่อย ตัวอย่างราคาดอกไม้ที่จัดตามท้องตลาด ถ้าจัดในแจกันทรงสูง ราคาเฉลี่ย 300-500 บาท ช่อดอกไม้เริ่มต้นที่ 300 บาท พวงหรีด 600 บาทขึ้นไป”
โดดเด่นกว่าคู่แข่ง
ด้วยความแปลก และแตกต่าง
ทราบรายละเอียดมาถึงตรงนี้ อาจารย์พัณณ์นิภาให้เทคนิคการเลือกชนิดดอกไม้ว่า หากเจ้าของร้านอยากเรียกราคาสูง ควรนำดอกไม้แปลกๆ สีสันหลากหลาย หรือดอกไม้เมืองนอก อาทิ ดอกลิลลี่ ดอกคาร์เนชั่น ดอกเยอร์บีร่า ดอกเดซี่ ดอกมัม ดอกกุหลาบ ดอกเรนันคูลัส ดอกทานตะวัน ดอกไลเซนทัส ใบซานาดู มาจัดตกแต่ง แต่อย่างไรก็ตาม อย่ามองข้ามดอกไม้ท้องถิ่น เนื่องจากสามารถนำมาประยุกต์จัดร่วมกันได้ “ชนิดดอกไม้ที่นำมาจัด ปัจจัยหลักขึ้นอยู่กับทำเล ราคา รสนิยมลูกค้า เพศ อายุ สำหรับคนต่างจังหวัดนิยมดอกไม้สีสันฉูดฉาด คนกรุงเทพฯ นิยมดอกไม้สีหวาน เรียบ แต่ในฐานะคนจัดดอกไม้ ต้องสามารถประยุกต์นำดอกไม้ทุกชนิดมาจัดได้หมด”
สำหรับความหมายของรูปแบบดอกไม้ที่จัด อาจารย์พัณณ์นิภา ยกตัวอย่างเช่น การจัดดอกไม้ในแจกันทรงเตี้ย และกระเช้า หมายถึงว่า ลูกค้าต้องการนำไปแสดงความยินดี เช่น เปิดร้าน หรือตั้งในห้องรับแขก วางบนโต๊ะอาหาร วางบนโต๊ะสำนักงาน ฉะนั้น เจ้าของร้านควรจัดแบบเน้นโชว์ความสวยงามของดอกไม้ ต่อมาคือ แจกันทรงสูง ใช้แสดงความยินดี ใช้ไหว้พระสงฆ์ ส่วนช่อดอกไม้ ใช้เยี่ยมคนป่วย เพื่อนเจ้าสาว หรือใช้ในงานมงคล ดังนั้น ควรเลือกสีสันสดใส
ถามอาจารย์พัณณ์นิภาถึงปัญหา อุปสรรคการจัดดอกไม้สด ท่านระบุว่า สมาธิ ความคิดสร้างสรรค์ และความชำนาญถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด ฉะนั้น หากขาดสิ่งเหล่านี้ไป ดอกไม้ที่จัดออกมาจะไม่สวยงาม ไม่ได้รูปทรง ซึ่งหนทางแก้ไขคือ ยามว่างควรฝึกฝีมือ ด้วยการนำดอกไม้มาลองปักลงบนดินน้ำมัน หรือโอเอซีส ให้คล่องมือ
สำหรับราคาดอกไม้ ที่จำหน่ายในท้องตลาด จากการสำรวจพบว่า ราคาจะขึ้น-ลง ตามช่วงเทศกาล มากกว่าฤดูกาล เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยสามารถปลูกดอกไม้นอกได้เองทางภาคเหนือ จึงทำให้ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ
ณ วันนี้ เชื่อว่าด้วยเงินลงทุนที่สูง จึงทำให้หลายคนอาจยังไม่มีหน้าร้านดอกไม้สวยดั่งที่คิดไว้ แต่อย่างไรก็ตาม อาจารย์พัณณ์นิภา กล่าวว่า การเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ที่ดี ควรมีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ไม่หลอกลวง ควรตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบ บริการด้วยอัธยาศัยที่ดี และรับฟังคำติชมจากลูกค้า เพื่อปรับปรุง และพัฒนาฝีมือให้ดียิ่งขึ้น
ที่มา bloggang.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น